วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2565

30 Dec 2022 End of 2022

 Summary Year end 2022

#Market
- ปีนี้เป็นปีที่ผันผวนมากที่สุดอีกปีนึง ในรอบหลายๆปี
- ถ้าดูจาก SET Index จะไม่รู้สึกว่ามันเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แต่ในแง่ Volatility นี่คือเยอะมากๆ
- ยังถือว่าตลาดไทยยังแข็งมากๆเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆเช่น Dow, Nasdaq, S&P, ยุโรป หรือ เอเซีย


#Study & Development
- ปีนี้ Take Course ของ Humble Trader ตั้งแต่มีนาคม จนถึงธันวาคม ได้พัฒนาตัวเองขึ้นพอสมควร
- จากการรื้อภาพระบบการเทรด ซื้อ/ขาย บริหารเงินหรือหน้าตัก จนถึงปรับ Mindset แบบรื้อและล้างกระบวนท่ามาใหม่ท้ั้งหมด แต่ยังถือว่าทำได้สัก 40-50%
- นั่งไล่ฟัง Trading Clip ของรุ่น 2 มากกว่า 20 clip โคย Clip ละ 1-2 ชม
- รอบแรกนั่งฟังผ่านๆ รอบสองนั่งฟังและจดออกมาด้วย
- รวมทั้งฟัง Training ของรุ่น 3 อีก 20 กว่าคลิป
- จากนั้น นั่งทำ Trading Process ของตัวเองตั้งแต่ต้นจนจบ ยอมรับว่ายังทำตามแผนได้ไม่ดีพอ

#Performance

- SET 1657.82 จบที่ 1668.66 = 0.65%
- Jirayukul Port NAV 12.3935 จบที่ 12.1976 = -1.58%
- DD = -10.28%
- Max DD = -19.06%



Overall Trade Statistic
- ทั้งปี เทรดไป 113 ครั้ง
- Win 29 ครั้ง (25.7%)
- Loss 84 ครั้ง (74.3%)
- ครั้งที่ Win ได้เป็น 71.4% (Average Profit = 179,337 บาท)
- ครั้งที่ Loss เสียเป็น 28.6% (Average Loss = 71,906 บาท)

- Largest Profit = 1,000,403 บาท
- Largest Loss = 339,891 บาท
- สรุปว่าชนะน้อยกว่าแพ้ แต่ตอนชนะๆทีนึงได้กำไรเยอะกว่าตอนแพ้
- ส่วนนึงคือ ถ้าได้กำไร จะปล่อยให้กำไรไปเรื่อยๆ
- แต่ตอนแพ้ จะมี Stop loss พยายามคุมไว้ไม่ให้บานปลาย


- อันนี้เป็นสถิติที่บอกว่า เวลา Stop loss ในแต่ละ % จะมีกี่ครั้ง
- เห็นว่า จะพยายามเกาะกลุ่มให้ขาดทุนทีละ ไม่เกิน 2-8% ในแต่ละไม้ จะมีแฉลบๆไปบ้าง


- ครั้งที่โดนหนักที่สุดจากทุกๆรอบ คือ โดนไป 2,721,079 บาท
- เคยชนะติดต่อกัน 10 ครั้งรวด คิดเป็น 841,260 บาท
- และเคยแพ้ติดๆกัน 18 ครั้งรวด คิดเป็นแค่ 293,301 บาท



Monthly Performance
Jan: 3.06%
Feb: -3.50%
Mar: -2.87%
Apr: -1.57%
May: 0.003%
Jun: -2.67%
Jul: -0.56%
Aug: 1.94%
Sep: 0.70%
Oct: 0.11%
Nov: 2.28%
Dec: 1.75%


Win Rate: 25.70%
Loss Rate: 74.30%
Profit Rate: 71.40%
Loss Rate: 28.60%

Consecutive Win: 10 Trades
Consecutive Loss: 18 Trades
*ไม่คิดว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่เวลาผิดที่ ผิดทาง ผิดเวลา มันสร้างความเสียหายได้เลวร้ายอย่างคาดไม่ถึง



Lesson:
1. ในตลาดที่เล่นแค่ 10,000 บาท แล้วยังทำกำไรไม่ได้ จะไปเล่น 1,000,000 บาท ไปทำไมฟร่ะ ยิ่งโดนยิ่งต้องซื้อน้อยลงเรื่อยๆ

2. อย่าอ้างว่าไม่มีเวลา แต่ให้สร้างเวลาเพื่อสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตเรา, Prioritize และ Balance มันดีๆ ปีนี้ฟัง Youtube ใน Class Humble วนไปวนมา และอ่านหนังสือเยอะมากที่สุดปีนึง

3. Stop loss ไม่ได้แค่ไว้ป้องกันเงินต้น แต่สำคัญกว่าคือ เอาไว้ป้องกันจิตใจหรือ Mindset ของเราให้ไม่บอบช้ำและ สามารถกลับสู่เกมส์ได้อีกครั้ง

4. ในยามตลาดแย่ๆ ไม่ควร Completely stop โดยที่เรายังต้องมีไม้ทดลอง หรือ Pilot Buy เพื่อให้ยังเข้าใจจังหวะของตลาดได้อยู่ ถ้ามี Setup ที่ให้เราเล่นได้ ถึงแม้ว่าตลาดยังจะดูไม่ดี เพราะ Leader ตัวใหม่ มักจะเจอ Bottom ก่อนตลาด จะเข้าสู้การเล่นรอบใหม่

5. Money Management โคตรสำคัญกว่า Method การเลือกหุ้น แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องมีแผนการ (Process หน้าจารย์เท่ห์ลอยมาเลย) เมื่อเราผิดแผนเรา จะได้รู้ว่าเราผิดแผน เวลาตายจะได้รู้ว่าเราตายเพราะอะไร รอบหน้าจะแก้ยังไง

สรุป
ปีนี้เล่นโคตรยาก แต่คิดว่าการเขียน Process รวมทั้งการคุม Risk & Money management อย่างละเอียด จะไม่ทำให้เราพอร์ตระเบิด จากนั้นจะเสมอตัวหรือได้ตังค์ ค่อยว่ากันอีกที แล้วแต่เมีย เอ้ยยยยยย ตลาดจะให้เรา



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น