- หลังจากที่ได้ Mindset ในการวนหุ้น คือ ไม่ได้ปล่อย Run Trend
- จะเป็น Profit taking เมื่อกำไรประมาณ 20-25%
- ภาษีที่ Mark พูดคือ เค้าจะทำกำไรประมาณ 3-4 เท่าของ ความเสี่ยงเค้า
- เช่น จุด Stop loss คือ 5% เค้าจะขายเมื่อได้กำไรประมาณ 15-20%
- แล้ววนไปตัวใหม่รัวๆ โดยจะ Focus อยู่ที่หุ้นไม่เกิน 8 ตัว คือ ประมาณ 12.5-25% ต่อตัว แล้วแต่ Pattern ของหุ้น และความมั่นใจ
- ที่ Mark ทำอย่างนี้ได้เพราะ Pattern VCP หรือ Power Play จะเป็น Momentum Play และมีแรงเหวี่ยงขึ้นลงเยอะมาก 15-25% อยู่ในความเป็นไปได้
***ข้อควรระวังสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่แม่นคือ ถ้าโดนแล้วไม่ Stop loss หรือมีการซื้อเฉลี่ยขาลง จะเป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ รวมทั้ง Focus ที่หุ้นหนักๆ 12.5-25% ถ้าพลาดอาจจะทำลายล้างพอร์ตพอสมควร
KCE
- อยู่ใน Pattern Power Play คือ ขึ้นจากล่างมาเกิน 100% ภายใน 3-6 เดือน
- สร้าง Base ใหม่อยู่อยู่บนๆ
- มี Relative Strength สูงๆ (ไม่ใช่ RSI)
- ซื้อได้แถวๆนี้ มี stoploss 55.25
- ตั้งเป้า take profit แถวๆ 18 บาท
- เหมือนมันชนแนวต้านแถวๆนี้ ขอขายเอาเงินไปวนตัวอื่นก่อน
- มันอาจจะไปต่อก็ได้ แต่มันแอบช้าหน่อยๆ
- ตัวนี้ทำการบ้านไว้วันก่อน แต่เอาจริงๆก็คือ ไม่มีเงินซื้อแล้ว
- ดัน take profit ตัว Singer แล้วไปเข้า Etc แทน
- ได้แต่มองตาปริบๆ ตัวนี้ Vol เข้าโคตรแรง แล้วมันก็ไปเลย
- ตัวนี้ตีไว้ 2 Swing คือ สวิงสีน้ำเงิน ที่มันโคตรจะ Extended แล้วไปชนเป้าแถวๆ 3.36
- และสวิงสีแดง เป็น Swing Equality ที่ตอนนี้ไปถึงเป้า 100% ของมันแล้ว
- ได้ครบ 1 เด้งพอดี ทุน 1.99 บาท วันนี้ราคาปิด 4.06 บาท
- แง่คิดที่ได้จากตัวนี้คือ ตอนชวนคนแล้วไม่มีใคร อยากซื้อเลย เพราะตอน IPO แม่งทุบลงมาซะเจ็บแสบ หลายๆคนแหยงๆ และไม่ชอบเจ้าของ
- ประกอบกับดู Vol Profile แล้วมีการเก็บของข้างล่างเยอะมากๆ เลยเห็นแรงจูงใจของเจ้ามือที่จงใจ ทุบตอน IPO ลงมาแล้วเก็บขอให้เต็มที่ด้านล่าง
- และก็เป็นอย่างที่คิดๆไว้คือ บริษัทน่าจะต้องออกข่าวมาเพียบ เพื่อดึงหุ้นกลับ ตอนที่ไปจาก 2 บาท ไป 2 บาทกว่าๆ คนด่ากันทั้งเมือง ว่ามันทำพยายาม PR สุดๆ
- แต่พอไป 3 บาทกว่าๆเริ่มมีคนถามว่า เฮ้ย มันทำอะไรหว่า ซื้อได้หรือยัง
- Learning ตรงนี้พอครบ Loop นึง แล้วได้ความรู้อะไรหลายๆอย่างมากๆ ถือเป็น Case study ที่ดีงามมากๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น