วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
Wed 31st May 2017 BUY PSL, Take profit UREKA, TACC
ACAP
- มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็น Head & Shoulder Pattern แล้วจะลงไปถึงเป้าหมายด้านล่าง
- ต้องรอคอนเฟิร์มอีกที
AEONTS
- รอรับ 111 และ 108
AMANAH
- ให้แนวรับสุดท้าย 1.95
BCH
- อยู่ใน Buy zone น่าลุ้น
CPF
- แปะไว้กันลืม รอมันเลือกข้าง น่าสนใจทั้งสองฝั่ง
GL
- week ยังเป็นบวก
- Day ทำกรอบสามเหลี่ยมรอ Break และเลือกข้าง
TKN
- เตรียมขายที่ 23.80 ไม้แรก
วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
Tue 30th May 2017
- ช่วงนี้หาหุ้นไม่ค่อยได้เท่าไหร่ รู้สึกว่าตอนหุ้นลงๆหนักๆจะเข้าจังหวะมากกว่า ช่วงนี้เหมือนหุ้นมันอยู่ตรงกลางๆทาง ไม่ขึ้นสุดแบบพร้อม breakout แต่ก็ไม่ได้ลงมาสุดให้เก็บได้
- บางทีการอยู่เฉยๆไม่ทำอะไรก็เป็นกลยุทธ์ที่ดี
CPF
- รอการเลือกข้างของหุ้น ว่าจะขึ้นหรือลง
PSL
- อยู่ใน Buy zone พร้อมเส้น 89 ที่พอจะลุ้นได้
- มี Displace ที่ลงมา Oversold หนักๆและเริ่ม Fade
PT
- รออีกสักหน่อยจะลงมาถึง Buy zone 6.25 ละกัน
UNIQ
- MACD ระดับ Week ถ้าปิดเหนือ 17.60 น่าจะเริ่มตัดเป็นเขียวได้ ซึ่งระดับ Day เริ่มจะตวัดกลับมาได้สักพักนึงแล้ว
- บางทีการอยู่เฉยๆไม่ทำอะไรก็เป็นกลยุทธ์ที่ดี
CPF
- รอการเลือกข้างของหุ้น ว่าจะขึ้นหรือลง
PSL
- อยู่ใน Buy zone พร้อมเส้น 89 ที่พอจะลุ้นได้
- มี Displace ที่ลงมา Oversold หนักๆและเริ่ม Fade
PT
- รออีกสักหน่อยจะลงมาถึง Buy zone 6.25 ละกัน
UNIQ
- MACD ระดับ Week ถ้าปิดเหนือ 17.60 น่าจะเริ่มตัดเป็นเขียวได้ ซึ่งระดับ Day เริ่มจะตวัดกลับมาได้สักพักนึงแล้ว
วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
Mon 29th May 2017 BUY HTECH, BCH
BCH
- ดูแนวรับ 12.10 ไว้เป็นแนวรับที่น่าลุ้น รับ 12.40 ไว้สักหน่อย ปิดหลุด 12.10 ก็คัท
- ทำตามระบบอย่างเคร่งครัด
COMAN
- ถือเป็น case study ที่ดีสำหรับตัวนี้ ดูแล้วอยู่ในจุดที่น่าสนใจ เลยโทรไปคุยกับรุ่นน้องที่ทำโรงแรม ว่าระบบของ Coman เป็นยังไงบ้าง เค้าตอนในมุมของคนทำโรงแรม ว่ามันก็เหมือนๆกันหมด เค้าใช้มาเกือบหมดแล้ว สำหรับโรงแรมในเครือ แต่ราคามันแพงกว่าชาวบ้านเยอะอยู่ ถ้าให้เลือกคงไม่ใช้เจ้านี้
- สรุปก็ กะว่าจะตั้งซื้อ 7.65 ก็เลย ไม่ต้้งซื้อ และราคามันก็ดีดขึ้นมาจาก ตรงนั้นเกือบๆ บาทนึง
- เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า พื้นฐานสามารถบอกภาพกว้างๆและทิศทาง ทั้ง Upside และ Downside ของหุ้นได้
แต่ Technical ก็เป็นเครื่องมือบอก Reference point ให้เราไว้ยึดถือ ในการคำนวณ Risk/Reward ได้เป็นอย่างดี เราจะต้องรู้ว่า Tool ไหนมีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไร เลือกมันมาใช้และคาดหวังกับมันให้ถูกต้อง
CPF
- หนังสือของ Ray Barros บอกว่าถ้าเป็น WPC (Whole Point Count) เกิน 8 แท่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนอกโซน Maximum Extension มันจะมีความเป็นไปได้ว่ามันจะลงต่อ
- แต่อาจจะมองเป็น Double RePo Buy ของ Joe DiNapoli ถ้าพรุ่งนี้ปิดเกินเส้น 3 X 3 ซึ่งประมาณ 25.00 ก็น่าลุ้นว่าจะกลับตัวได้ในระยะสั้น
- มองอีกแง่นึงอาจมองเป็น Climax Bottom ของ William O'neil ก็ได้ เกิดจาก Vol Peak วันที่ลงหนักๆ แล้วถัดมา Vol เริ่ม Fade
HTECH
- รับ 8.50, 8.45 ไปสองไม้ รอรับ 8.10 อีกไม้นึง ถ้าหลุดก็คงต้องคัทก่อน
VIH
- ช่วงนี้กลุ่ม รพ โดนแรงเทขายอย่างหนัก
- รอบนี้ Detrended Price Oscillator ปรับลงมา Oversold อย่างหนัก ทะลุลงมาแทบจะมากกว่ารอบที่แล้วที่ลงจาก 13 ลงไป 10 บาท
- รอดูว่าจะเป็น Double RePo buy หรือเปล่า
วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
Fri 26th May 2017 เมื่อวานก็ยุ่ง วันนี้ก็วุ่นๆ ไม่ได้ปรับพอร์ตเลย
- เมื่อวานต้องเข้าไซด์งานหลัง 4 ทุ่มที่ Central บางนา กลับมาก็เกือบๆตีสอง ตื่นเช้ามารีบเครียร์งาน สรุปวันนี้ได้แต่เปิดพอร์ตดูแว๊ปๆ ไม่ได้ปรับพอร์ตอะไรเช่นเคย
- รอบนี้โชคดีที่ยังคงทำตามระบบ แม้ว่าจะมีมุมมองที่ Bear มากๆตอนสองสัปดาห์ก่อน ขายหุ้น ถือเงินสดเยอะมากๆ ประมาณ 70% ได้ หลังจากที่โดยคัทลอสทำเอาจิตใจรวนไปพอสมควร เลยต้องยอมถอยออกมาข้างสนามดูเค้าชุลมุลกัน
- เมื่อขายออกได้เต็มจำนวนที่อยากขายแล้ว เริ่มมีความรู้สึกว่าอยากให้ลงแรงๆ แต่ตลาดเจ้าดันไม่ลงแรง ตามที่คาด เลยเริ่มมาหาหุ้นตัวพื้นฐานดีๆที่เคยอยากเป็นเจ้าของ แล้วลงมาเทสใน Buy zone สรุปได้มา 4-5 ตัวก็ทยอยรับ เช่น Amanah รับ 1.66, Jmart 11.80 ลงมา, TKN แถวๆ 20.00 บาท, TACC ุ6.25, PLANB 5.35
- และมีอีกหลายตัวที่อยากได้แต่ดันลงมาไม่ถึง JMT ถ้าลงมาถึงจริงๆอยากรับเยอะเลย แต่ไม่ถึง, ACAP ลงมาถึงแล้ว แต่เล่นตัว อยากได้ต่ำกว่านั้นอีก เสียดายจริง
AMANAH
- รับใน Buy zone แล้วรอขึ้นไปขายที่ 2.46
GL
- MACD week ตัดเป็นบวก น่าจะทำให้เริ่มมี Momentum
JMART
- ได้ XW ฟรี
PLANB
- ซื้อที่แนวรับ Down trendline
PTL
- ราคาหลุดลงไป Maximum extension 12.70 แล้วเด้งขึ้นมา
SINGER
- ราคาหลุดลงไป Maximum extension แล้วเด้งขึ้นมาแรง
TACC
- อีกหนึ่งตัวที่ราคาหลุดลงไป Maximum extension แล้วเด้งขึ้นมา
TIPCO
- ลงมาพักที่แนวรับ แนวต้านที่มาเทสบ่อยๆแล้วเด้ง
TKN
- เด้งขึ้นไป รอขายไม้แรกที่ 23.80
UREKA
- ความเดิมวันพุธที่ผ่านมา ตั้ง ATO ได้หุ้นที่ไปที่ 1.08 อยู่หน่อยนึง ไม่คิดว่าจะไปเลย
- รอบนี้โชคดีที่ยังคงทำตามระบบ แม้ว่าจะมีมุมมองที่ Bear มากๆตอนสองสัปดาห์ก่อน ขายหุ้น ถือเงินสดเยอะมากๆ ประมาณ 70% ได้ หลังจากที่โดยคัทลอสทำเอาจิตใจรวนไปพอสมควร เลยต้องยอมถอยออกมาข้างสนามดูเค้าชุลมุลกัน
- เมื่อขายออกได้เต็มจำนวนที่อยากขายแล้ว เริ่มมีความรู้สึกว่าอยากให้ลงแรงๆ แต่ตลาดเจ้าดันไม่ลงแรง ตามที่คาด เลยเริ่มมาหาหุ้นตัวพื้นฐานดีๆที่เคยอยากเป็นเจ้าของ แล้วลงมาเทสใน Buy zone สรุปได้มา 4-5 ตัวก็ทยอยรับ เช่น Amanah รับ 1.66, Jmart 11.80 ลงมา, TKN แถวๆ 20.00 บาท, TACC ุ6.25, PLANB 5.35
- และมีอีกหลายตัวที่อยากได้แต่ดันลงมาไม่ถึง JMT ถ้าลงมาถึงจริงๆอยากรับเยอะเลย แต่ไม่ถึง, ACAP ลงมาถึงแล้ว แต่เล่นตัว อยากได้ต่ำกว่านั้นอีก เสียดายจริง
AMANAH
- รับใน Buy zone แล้วรอขึ้นไปขายที่ 2.46
GL
- MACD week ตัดเป็นบวก น่าจะทำให้เริ่มมี Momentum
JMART
- ได้ XW ฟรี
PLANB
- ซื้อที่แนวรับ Down trendline
PTL
- ราคาหลุดลงไป Maximum extension 12.70 แล้วเด้งขึ้นมา
SINGER
- ราคาหลุดลงไป Maximum extension แล้วเด้งขึ้นมาแรง
TACC
- อีกหนึ่งตัวที่ราคาหลุดลงไป Maximum extension แล้วเด้งขึ้นมา
TIPCO
- ลงมาพักที่แนวรับ แนวต้านที่มาเทสบ่อยๆแล้วเด้ง
TKN
- เด้งขึ้นไป รอขายไม้แรกที่ 23.80
UREKA
- ความเดิมวันพุธที่ผ่านมา ตั้ง ATO ได้หุ้นที่ไปที่ 1.08 อยู่หน่อยนึง ไม่คิดว่าจะไปเลย
วันพุธที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
Wed 24th May 2017 ไม่ได้ปรับพอร์ต ประชุมทั้งวัน
- วันนี้ไม่ได้ปรับพอร์ตอะไรเพิ่มเติมเลย มีประชุมทั้งวัน เปิดดูหุ้นนิดหน่อยตอนเข้าห้องน้ำ
ACAP
- มีลงมาเทสที่ Buy Zone สองครั้งก่อนจะปรับตัวขึ้น
- รู้ทั้งรู้ว่าแนวรับตรงนี้อย่างน้อยต้องมีของสัก 1/3 แต่ก็ดันไม่ได้รับเข้าไป เป็นกรณีศึกษาละกาน
AMANAH
- ผ่านเป้าแรกที่ 2.06 ไปได้ มีลุ้นไป 2.46 เป็นเป้าถัดไป
- เล่นตามแผนที่วางไว้ให้ได้ ตั้งขายที่ 2.46 อีก 1/3 ส่วน
CBG
- ทะลุแนวต้านเดิมที่ 68.00 ขึ้นไปปิดได้อย่างสวยงาม
- รอบนี้มองพลาดไปจริงๆ มันคือ Bottom out ตรงนั้นไปแล้ว
- ถ้างบไม่ดี แล้วราคาไม่ลง คราวหน้าจะต้องมีแหย่เพิ่มไปอีกสัก 1/4 หรือ 1/3 ของที่อยากได้ไปก่อน
GL
- เริ่มมี MACD ระดับ Week ตัดเป็นบวกได้แล้ว
- เริ่มดูมี Momentum ที่จะพร้อมกลับมาเล่นใหม่ได้
- ต้องเริ่มหาจังหวะเข้า วันที่ย่อๆ ในสัปดาห์นี้
TACC
- เริ่มตีกลับมาได้บ้าง
TKN
- ขยับกลับมาได้อีกหน่อย
TNR
- น่าลุ้นรับกลับเข้าไปเล่นอีกรอบ
UREKA
- น่าลุ้นรับกลับเข้าไป
- ว่าแต่ก็ตั้ง ATO ไปเล่นๆสักหน่อยเลยดีกว่า
ACAP
- มีลงมาเทสที่ Buy Zone สองครั้งก่อนจะปรับตัวขึ้น
- รู้ทั้งรู้ว่าแนวรับตรงนี้อย่างน้อยต้องมีของสัก 1/3 แต่ก็ดันไม่ได้รับเข้าไป เป็นกรณีศึกษาละกาน
AMANAH
- ผ่านเป้าแรกที่ 2.06 ไปได้ มีลุ้นไป 2.46 เป็นเป้าถัดไป
- เล่นตามแผนที่วางไว้ให้ได้ ตั้งขายที่ 2.46 อีก 1/3 ส่วน
CBG
- ทะลุแนวต้านเดิมที่ 68.00 ขึ้นไปปิดได้อย่างสวยงาม
- รอบนี้มองพลาดไปจริงๆ มันคือ Bottom out ตรงนั้นไปแล้ว
- ถ้างบไม่ดี แล้วราคาไม่ลง คราวหน้าจะต้องมีแหย่เพิ่มไปอีกสัก 1/4 หรือ 1/3 ของที่อยากได้ไปก่อน
GL
- เริ่มมี MACD ระดับ Week ตัดเป็นบวกได้แล้ว
- เริ่มดูมี Momentum ที่จะพร้อมกลับมาเล่นใหม่ได้
- ต้องเริ่มหาจังหวะเข้า วันที่ย่อๆ ในสัปดาห์นี้
TACC
- เริ่มตีกลับมาได้บ้าง
TKN
- ขยับกลับมาได้อีกหน่อย
TNR
- น่าลุ้นรับกลับเข้าไปเล่นอีกรอบ
UREKA
- น่าลุ้นรับกลับเข้าไป
- ว่าแต่ก็ตั้ง ATO ไปเล่นๆสักหน่อยเลยดีกว่า
วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
Tue 23rd May 2017 BUY RS, TKN more
- รอบนี้โดนไปหลายรอบทำให้เสียเงินเนื่องจากทำผิดแผน และที่สำคัญทำให้เสียกำลังใจ
- ยังดีมี Saft T-cut คือ ถือเงินสดถอยออกมาตั้งสติกันข้างนอกก่อน เวลาที่เรามึนๆทำอะไรไม่ถูก ทำแล้วผิดๆพลาดๆ
- จิตวิทยาเวลาที่ถือเงินสดเยอะๆ แล้วหุ้นเด้งแสกหน้าไป ทำให้รู้สึก Pain กับความรู้สึกตกรถ สิ่งที่เราทำได้รอบนี้คือ ตัวไหนพื้นฐานดีๆ ที่เคยอยากได้แล้วราคาลงมาใน Buy zone ซื้อแม่มให้หมดเลย
- รอบนี้ตัวที่เข้า Buy zone มี Amanah, Jmart, TKN, TNR (ทะลุไปเกิน ขายที่ Low แล้วเด้งขึ้น) จริงๆอยากได้ JMT มากๆ ถ้าต่ำกว่า 20 จะรับเข้าให้เยอะๆ แต่ดันลงมาไม่ถึง
- รอบนี้ตัวที่พลาดและต้อง Remark ไว้คือ CBG การที่เราได้ข้อมูลอย่างนึงมา แต่ตีความผิดพลาดมันให้ผลที่ต่างกันไปจริงๆ แม้เราจะไม่ขาดทุน แต่เป็นความรู้สึกตกรถ ซึ่งการศึกษามาเป็นอย่างดี ถือเป็นสิ่งทีี่ดี แต่การไล่ราคาหุ้นทั้งๆที่มันแพงอยู่มากๆ ถือเป็นการไม่ควบคุมความเสี่ยง
- แต่ถ้าเราจะเล่นแบบ Technical คือ ถ้าประกาศผลออกมาแย่แล้วมันไม่ลง ก้คือมันจะขึ้น อย่างไรก็ดี ต้องมีหยอดไว้บ้าง 1/4 ขึ้นมาแล้วค่อยว่ากันอีกที
ETE
- ตอนตลาดลงๆ มีลงไปแตะ Buy zone 3.54 อยู่ไม่เยอะ ไอ้เราก็รับไว้ส่วนนึง มองว่าอาจจะได้รับเพิ่มต่ำกว่านี้ เลยรับไว้ก่อนสัก 1/3 แต่มันดันกลับตัวแล้วไปต่อ
JMART
- เข้าไปรับใน Buy zone ที่มีเส้น 89 เป็นอีกหนึ่ง support
- วันนี้เริ่มเด้งกลับแล้ว
PRINC
- ลงมาใน Buy zone ต่ำกว่า 3.34 น่าลุ้น
RS
- หลังจากทยอยรับ RS มาหลายวัน วันนี้เริ่มปรับตัวดีดขึ้นไป
- สังเกตุมี Vol เยอะๆ พร้อมทั้ง Big Lot เมื่อวาน ที่ 9.60 ทำให้มองว่าคงมีอะไรดีๆ
- อีกทั้งทุก Time Frame ต่างปรับตัวเป็นบวก
TACC
- เริ่มมี MACD ปรับตัวเป็นบวกครั้งแรกหลังจากหลุดลงมาใหญ่
- กลับขึ้นไปยือนเหนือแนวรับ 6.22 ซึ่งกลายเป็นแนวต้านที่ผ่านขึ้นมาได้
TKN
- รอบนี้ทยอยตั้งรับที่ Buy zone ตั้งแต่ แถวๆ 19.90-20.20
TNR
- เริ่มมี MACD เป็นบวก ยังไม่ได้เข้าเลย อยากเข้าแต่หาจังหวะไม่ได้ วันนี้ลืมเข้า
VIH
- หลุดแนวรับสำคัญที่ 7.95 แนวรับถัดไป 6.63
- ยังดีมี Saft T-cut คือ ถือเงินสดถอยออกมาตั้งสติกันข้างนอกก่อน เวลาที่เรามึนๆทำอะไรไม่ถูก ทำแล้วผิดๆพลาดๆ
- จิตวิทยาเวลาที่ถือเงินสดเยอะๆ แล้วหุ้นเด้งแสกหน้าไป ทำให้รู้สึก Pain กับความรู้สึกตกรถ สิ่งที่เราทำได้รอบนี้คือ ตัวไหนพื้นฐานดีๆ ที่เคยอยากได้แล้วราคาลงมาใน Buy zone ซื้อแม่มให้หมดเลย
- รอบนี้ตัวที่เข้า Buy zone มี Amanah, Jmart, TKN, TNR (ทะลุไปเกิน ขายที่ Low แล้วเด้งขึ้น) จริงๆอยากได้ JMT มากๆ ถ้าต่ำกว่า 20 จะรับเข้าให้เยอะๆ แต่ดันลงมาไม่ถึง
- รอบนี้ตัวที่พลาดและต้อง Remark ไว้คือ CBG การที่เราได้ข้อมูลอย่างนึงมา แต่ตีความผิดพลาดมันให้ผลที่ต่างกันไปจริงๆ แม้เราจะไม่ขาดทุน แต่เป็นความรู้สึกตกรถ ซึ่งการศึกษามาเป็นอย่างดี ถือเป็นสิ่งทีี่ดี แต่การไล่ราคาหุ้นทั้งๆที่มันแพงอยู่มากๆ ถือเป็นการไม่ควบคุมความเสี่ยง
- แต่ถ้าเราจะเล่นแบบ Technical คือ ถ้าประกาศผลออกมาแย่แล้วมันไม่ลง ก้คือมันจะขึ้น อย่างไรก็ดี ต้องมีหยอดไว้บ้าง 1/4 ขึ้นมาแล้วค่อยว่ากันอีกที
ETE
- ตอนตลาดลงๆ มีลงไปแตะ Buy zone 3.54 อยู่ไม่เยอะ ไอ้เราก็รับไว้ส่วนนึง มองว่าอาจจะได้รับเพิ่มต่ำกว่านี้ เลยรับไว้ก่อนสัก 1/3 แต่มันดันกลับตัวแล้วไปต่อ
JMART
- เข้าไปรับใน Buy zone ที่มีเส้น 89 เป็นอีกหนึ่ง support
- วันนี้เริ่มเด้งกลับแล้ว
PRINC
- ลงมาใน Buy zone ต่ำกว่า 3.34 น่าลุ้น
RS
- หลังจากทยอยรับ RS มาหลายวัน วันนี้เริ่มปรับตัวดีดขึ้นไป
- สังเกตุมี Vol เยอะๆ พร้อมทั้ง Big Lot เมื่อวาน ที่ 9.60 ทำให้มองว่าคงมีอะไรดีๆ
- อีกทั้งทุก Time Frame ต่างปรับตัวเป็นบวก
TACC
- เริ่มมี MACD ปรับตัวเป็นบวกครั้งแรกหลังจากหลุดลงมาใหญ่
- กลับขึ้นไปยือนเหนือแนวรับ 6.22 ซึ่งกลายเป็นแนวต้านที่ผ่านขึ้นมาได้
TKN
- รอบนี้ทยอยตั้งรับที่ Buy zone ตั้งแต่ แถวๆ 19.90-20.20
TNR
- เริ่มมี MACD เป็นบวก ยังไม่ได้เข้าเลย อยากเข้าแต่หาจังหวะไม่ได้ วันนี้ลืมเข้า
VIH
- หลุดแนวรับสำคัญที่ 7.95 แนวรับถัดไป 6.63
วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
Mon 22th Mar 2017
BJC
- วัดเป้า ABC ลงมาถึง OP ที่ 43.15 แล้ว ทำ C2 อีกครั้งก่อนวันนี้เด้งขึ้นแรง
JMT
- อยากได้สักต่ำกว่า 19.70 ลงมา
RS
- สวยทั้ง 3 TF
- หาจังหวะเข้าเพิ่ม
TKN
- มองว่า Bottom out พร้อม Vol Peak เป็น Climax bottom ตรงแท่งวงกลม น่าจะปรับตัวทำฐานเจอแล้ว
TNR
- ทำ ABC ลงมา OP ที่ 20.20 แล้วพยายามจะเด้งกลับไป
วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
Fri 19th May 2017 BUY TKN
- ยิ่งอยู่ในตลาดไปนานๆ ยิ่งรู้สึกว่าเรานั้นยังไม่เข้าใจตลาดเอาซะเลย
- เริ่มจะเข้าใจกูรู Value Investor ระดับโลกต่างๆทั้ง Buffet , Jim Roger และ Howard Marks กล่าวถึงการ Time the market หรือการกะระยะเวลาซื้อๆขายๆ เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก
- แต่การศึกษามูลค่าที่แท้จริงของกิจการและซื้อมันด้วยมูลค่าที่ต่ำกว่า เป็นการซื้อเข้าที่ถูกต้อง เมื่อเราซื้อได้ถูกต้อง ย่อมมีผลทำให้เราสามารถถือได้อย่างมั่นใจ
- ศาสตร์อื่นๆทั้ง Technical หรืออย่าง Ray Dalio ก็มีสมการ Return = Alpha + Beta + Cash เค้าก็ยังมีเผื่อ Cash ไว้เสมอยามที่ตลาดเกิด Panic เมื่อนั้นการที่เราเข้าไปซื้อหุ้นพื้นฐานที่ต่ำกว่ามูลค่ากิจการ ยามที่คนโดน Force Sell หรืออยากขายกันมากๆโดยไม่คิดชีวิต เมื่อนั้นแหละจะทำให้เราได้ Access Return ที่เหนือกว่าตลาด
1. ศึกษาหุ้นพื้นฐานให้เข้าใจมันและรู้มูลค่าพื้นฐานแต่ละตัว รอเวลาที่มันเกิดปัญหาระดับ Macro หรือชั่วคราวแล้วค่อยซื้อมัน
2. วิเคราะห์ตลาดอย่างสม่ำเสมอ หา Zone แนวรับ แนวต้าน ของหุ้นที่เราสนใจ จนเป็นกิจวัตรประจำวัน
3. เผื่อ Money Management ไว้พอสมควร ยามเมื่อเกิดวิกฤต เราจะได้เข้าไปช้อนซื้อตามแนวรับต่างๆที่เราดูอยู่ทุกวันแล้ว
กรณีศึกษา CBG
- เราพอรู้ข้อมูลว่ามันน่าจะออกมาดีหรือไม่ดีอย่างไร แต่เราก็ดันไปคิดว่าจะขายก่อนแล้วค่อยกลับมารับ แต่จริงๆแล้วมันมีปัจจัยเยอะกว่านั้นมาก เช่น เมื่อผลประกอบการณ์ไม่ดี คนมองเป็น Bottom Out ไปแล้ว หรือมีเรื่องอื่นที่กลับมาดี
- การได้รับข้อมูลมา แล้วเราต้องวิเคราะห์ผู้เล่นรายต่างๆในตลาด เช่น กองทุน, รายใหญ่, รายย่อย, เจ้ามือ ว่าคิดเห็นเช่นไร ถือ Position มากน้อยแค่ไหน และจะ React ต่อข่าวอย่างไรบ้าง
- ปัจจุบัน PE 40 กว่าเท่า ก็เป็นราคาที่ไม่ถูกเท่าไหร่ คนมองว่าเมืองจีนจะดีมากๆ เริ่มคลายกังวล ถึงแม้จะมี Order ได้ 300 ล้านกระป๋อง ที่เป็นข่าวดีมากกว่าคาด แต่จะให้ดีที่สุดคือ เมื่อเกิดการ Repeat Order เพราะตอนนี้มันเป็นการเติมเข้าไปบน Shelf ก่อน
- รอให้เกิด Panic และรับในระดับราคาที่เราคิดว่ามี Risk/Reward ที่น่าสนใจ การจะถือหุ้นระยะยาว ราคาในการซื้อเข้าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ที่จะทำให้เราอดทนและมั่นใจถือไปกับมันได้ในระยะยาว ถ้าเราไล่ราคาแล้วเราคงทนแรงเหวี่ยงมากๆไม่ไหว
ALT
- เคยตีเส้นเป้าหมาย XOP ที่ 6.35 มันเกือบถึงแล้วเด้งกลับเลย
- MACD เริ่มรับเป็นเขียววันนี้วันแรกด้วย
AMANAH
- MACD เริ่มปรับเป็นเขียวมาสองวัน
- วันนี้ชะล่าใจไม่ได้ตั้งขายไว้ 1/3 ที่ 2.08 วันนี้เลยขึ้นไปเลยแล้วย่อลงมา
ETE
- ยังเก็บไม่ครบเท่าที่ตั้งใจเลย มัวแต่รอว่ามันลงมา 3.50 แล้วเผื่อใจว่าอาจจะย่อลงไปถึง 3.38 อีกครั้งแล้วค่อยจัดเต็ม
- เมื่อวาน MACD ตัดบวกครั้งแรก วันนี้ลากเลย
JMART
- อยู่ใน Buy zone เริ่มตีกลับไป
RS
- เริ่มเป็น Trend ขาขึ้นทั้ง Month, week และ Day
- น่าสนใจรอบนี้ อาจเป็นรอบใหญ่ของ RS ได้
TACC
- ลงมาถึง 125% แล้วเริ่มตีกลับ รับไปหน่อย กันเหนียว
TKN
- รับเข้าไปเพิ่ม มองว่าแถวๆน่าสนใจ แต่ถ้าหลุด 18.00 ค่อยคัท แสดงว่าแถวๆนี้รับไม่อยู่
- เริ่มจะเข้าใจกูรู Value Investor ระดับโลกต่างๆทั้ง Buffet , Jim Roger และ Howard Marks กล่าวถึงการ Time the market หรือการกะระยะเวลาซื้อๆขายๆ เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก
- แต่การศึกษามูลค่าที่แท้จริงของกิจการและซื้อมันด้วยมูลค่าที่ต่ำกว่า เป็นการซื้อเข้าที่ถูกต้อง เมื่อเราซื้อได้ถูกต้อง ย่อมมีผลทำให้เราสามารถถือได้อย่างมั่นใจ
- ศาสตร์อื่นๆทั้ง Technical หรืออย่าง Ray Dalio ก็มีสมการ Return = Alpha + Beta + Cash เค้าก็ยังมีเผื่อ Cash ไว้เสมอยามที่ตลาดเกิด Panic เมื่อนั้นการที่เราเข้าไปซื้อหุ้นพื้นฐานที่ต่ำกว่ามูลค่ากิจการ ยามที่คนโดน Force Sell หรืออยากขายกันมากๆโดยไม่คิดชีวิต เมื่อนั้นแหละจะทำให้เราได้ Access Return ที่เหนือกว่าตลาด
1. ศึกษาหุ้นพื้นฐานให้เข้าใจมันและรู้มูลค่าพื้นฐานแต่ละตัว รอเวลาที่มันเกิดปัญหาระดับ Macro หรือชั่วคราวแล้วค่อยซื้อมัน
2. วิเคราะห์ตลาดอย่างสม่ำเสมอ หา Zone แนวรับ แนวต้าน ของหุ้นที่เราสนใจ จนเป็นกิจวัตรประจำวัน
3. เผื่อ Money Management ไว้พอสมควร ยามเมื่อเกิดวิกฤต เราจะได้เข้าไปช้อนซื้อตามแนวรับต่างๆที่เราดูอยู่ทุกวันแล้ว
กรณีศึกษา CBG
- เราพอรู้ข้อมูลว่ามันน่าจะออกมาดีหรือไม่ดีอย่างไร แต่เราก็ดันไปคิดว่าจะขายก่อนแล้วค่อยกลับมารับ แต่จริงๆแล้วมันมีปัจจัยเยอะกว่านั้นมาก เช่น เมื่อผลประกอบการณ์ไม่ดี คนมองเป็น Bottom Out ไปแล้ว หรือมีเรื่องอื่นที่กลับมาดี
- การได้รับข้อมูลมา แล้วเราต้องวิเคราะห์ผู้เล่นรายต่างๆในตลาด เช่น กองทุน, รายใหญ่, รายย่อย, เจ้ามือ ว่าคิดเห็นเช่นไร ถือ Position มากน้อยแค่ไหน และจะ React ต่อข่าวอย่างไรบ้าง
- ปัจจุบัน PE 40 กว่าเท่า ก็เป็นราคาที่ไม่ถูกเท่าไหร่ คนมองว่าเมืองจีนจะดีมากๆ เริ่มคลายกังวล ถึงแม้จะมี Order ได้ 300 ล้านกระป๋อง ที่เป็นข่าวดีมากกว่าคาด แต่จะให้ดีที่สุดคือ เมื่อเกิดการ Repeat Order เพราะตอนนี้มันเป็นการเติมเข้าไปบน Shelf ก่อน
- รอให้เกิด Panic และรับในระดับราคาที่เราคิดว่ามี Risk/Reward ที่น่าสนใจ การจะถือหุ้นระยะยาว ราคาในการซื้อเข้าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ที่จะทำให้เราอดทนและมั่นใจถือไปกับมันได้ในระยะยาว ถ้าเราไล่ราคาแล้วเราคงทนแรงเหวี่ยงมากๆไม่ไหว
ALT
- เคยตีเส้นเป้าหมาย XOP ที่ 6.35 มันเกือบถึงแล้วเด้งกลับเลย
- MACD เริ่มรับเป็นเขียววันนี้วันแรกด้วย
AMANAH
- MACD เริ่มปรับเป็นเขียวมาสองวัน
- วันนี้ชะล่าใจไม่ได้ตั้งขายไว้ 1/3 ที่ 2.08 วันนี้เลยขึ้นไปเลยแล้วย่อลงมา
ETE
- ยังเก็บไม่ครบเท่าที่ตั้งใจเลย มัวแต่รอว่ามันลงมา 3.50 แล้วเผื่อใจว่าอาจจะย่อลงไปถึง 3.38 อีกครั้งแล้วค่อยจัดเต็ม
- เมื่อวาน MACD ตัดบวกครั้งแรก วันนี้ลากเลย
JMART
- อยู่ใน Buy zone เริ่มตีกลับไป
RS
- เริ่มเป็น Trend ขาขึ้นทั้ง Month, week และ Day
- น่าสนใจรอบนี้ อาจเป็นรอบใหญ่ของ RS ได้
TACC
- ลงมาถึง 125% แล้วเริ่มตีกลับ รับไปหน่อย กันเหนียว
TKN
- รับเข้าไปเพิ่ม มองว่าแถวๆน่าสนใจ แต่ถ้าหลุด 18.00 ค่อยคัท แสดงว่าแถวๆนี้รับไม่อยู่
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)