วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2567

Thu 26th Sept 2024 Big Cap Rising

 Market
- ตลาดยังคงสลับกลุ่มเล่นแบบยังไม่มี Big Winner ที่ชัดเจน แนวๆ Big Cap Rising
- ยังเป็นช่วงที่เล่นได้ยากมากๆ

Strategy
- ตอนนี้ YTD -11.50% ตามแผนคือ ต้อง มีแค่ 7.5% X Max 6 stock
- ปัจจุบันยังมีเกินๆไปอยู่จากของเก่า ยังไงจะต้องกลับมาใน Process ให้ได้ภายในสัปดาห์หน้า

- BA ขายออก 12,500 ถ้าไม่กลับมา 23.20
- BANPU ขายออก 125,000  ถ้าหลุด 6.80
- DIF ขายออก 30,000 ถ้าหลุด 9.45
- JMART ขายออก 75,000 ถ้าหลุด 15.80
- LTS ลดออก 150,000 หาจังหวะ
- SAV ขายออก 150,000 ถ้าไม่ปิดยืน 21.50
ทั้งหมดนี่ รอดูตอน 16:15 pm



วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2567

Sun 15th Sept 2024 สรุปความคิด เหตุและผลในปัจจุบัน

 ไม่ได้เขียนไดอารีมานาน

ที่ผ่านมา 2-3 ปีล่าสุด มีการเทรนกับ Humble trading และเน้นไปที่ Process trading วางแผน ทำตามแผน ความคุมความเสี่ยงแบบเป๊ะๆ


ข้อดี
1. Process ที่ดีสามารถคุม Risk รวมถึงคุม Drawdown ได้ดีมากๆ

2. สภาพจิตใจค่อนข้างดี มีหลักคิดและหลักการให้ยึดเหนี่ยว ไม่ไหว้เขวง่ายๆ มีอะไรก็โทษ Process แม่งก่อนเลย ถ้าทำตามไม่ได้ค่อยโทษตัวเอง และถ้า Process ไม่ดีค่อยปรับ Process

3. ถ้าทำอย่างสม่ำเสมอจะสามารถวัดและประเมินผลได้ง่ายและชัดเจน

ข้อเสีย
1. เป็นการกินคำเล็กถึงกลางๆ เช่นได้ทีละ 2-3R ไม้แรก และไม้สอง 4R ที่เหลือจะปล่อย Run trend แต่จะไม่ได้กินคำใหญ่ ทั้ง Position เหมือนแนวๆวีไอ (ตรงนี้อาจไม่ถูกจริตของตัวเราเอง)

2. ในช่วงที่ตลาด Sideway โดยเฉพาะ Sideway Down จะโดน Stop loss รัวๆมากๆ อาจทำให้ใจแกว่ง และหมดศรัทธาในระบบ Momentum และ RS แบบกัดกร่อนลงไปเรื่อยๆ

3. ถ้า Process ของเราเหมือนหรือคล้ายกับของคนอื่นๆ เราจะหา Competitive Advantage ได้ยาก



ช่วง 6 เดือนล่าสุด เป็นช่วงที่ตลาด Down trend อย่างที่สุด ลงแล้วลงอีก ทำให้ต้องเริ่มพิจารณาหาวิธีการใหม่ๆ เริ่มกลับมาศึกษาแนวทาง VI อีกครั้ง มองหุ้นเป็นการซื้อกิจการเพื่อสร้างกระแสเงินสด รวมทั้งมองมิติปันผล ที่เราจะได้รับแต่ละปีและเดือนเพื่อให้พอกับรายจ่ายในปัจจุบันและอนาคต

และมองข้ามแนวรับ หรือ Stop loss ไป พยายามที่จะมองให้ยาวขึ้น คนอื่นๆเค้ามองกัน QoQ เราพยายามจะมองให้เป็น YoY ให้ได้

- สร้างพอร์ตปันผลที่พอมี Growth ศึกษาพฤติกรรมของมันในอดีต ทั้งการเจริญเติบโตใน Business model และการจ่ายเงินปันผล ที่เพียงพอกับที่เราต้องการ

- เข้าใจและแตกฉานกับมันพอสมควร แต่แผนที่เราวางไว้ มันจะตามแผนจนกระทั่งเราโดนหมัดฮุกของไมค์ ไทสันเข้าเต็มๆ

- ช่วงเดือนล่าสุด SET กลับไปยืนเหนือเส้น 10, 20, 50, 200 ได้ตามลำดับ แบบเร็วและแรง โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ๆเป้าหมายวายุภักษ์ ตอนแรกมองไว้ว่าเดี๋ยวหุ้นเราก็คงตามมาช้าๆค่อยๆเป็นค่อยๆไป

- แต่ไม่ใช่ว่ามันจะยังไม่มา หุ้นที่ถือมันดันโดนขาย แล้ว Rotate ไปเล่นหุ้นใหญ่ ทำสัญญาณหลุดแนวรับโคตรใหญ่ เช่น Trend Line เส้นใหญ่ หรือเส้น 200 วันแบบหลุดแล้วขึ้นมาชนแล้วทำ Lower low ต่อ

- ยืนขาตายอยู่ ในช่วง 2-3 สัปดาห์ ทนรับ Draw down ปล่อยให้พอร์ตจมลงเรื่อยๆ เริ่มนอนหลับไม่สนิท ว่าเราควรจะยึดมั่นในแนวทางเดิม คือ เน้นพื้นฐานมองภาพใหญ่ๆให้ขาด แล้วช่างแม่ง Stop loss

หลังจากนอนๆคิดมาหลายๆคืน กลับมาเจอ Port Management ที่เคยแปะไว้ข้างๆโต๊ะ แล้วก็คิดว่าควรจะกลับมาสู่พื้นฐาน คือ การปรับสภาพจิตใจให้เป็นปกติก่อน


- พอเห็นตารางอันนี้ ก็มานั่งไล่ปรับพอร์ต ขายตัวที่หลุดเส้น 200 วันและ Trend line แบบชัดเจนๆออกไปก่อน และค่อยๆคัดหุ้นที่พอมีความแข็งแกร่งและเรามั่นใจ Story เข้ามาแทนที่

- สภาพจิตใจคือ ค่อยๆกลับมามีที่ยึดเหนี่ยวอีกครั้ง
- คิดว่านักลงทุนวีไอคงมีพื้นฐาน หรือ Business model ไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ
- RS หรือ Momentum investor ก็อาจจะมี Chart และ Technical ไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจเช่นกัน




***สรุป ณ ปัจจุบัน ยังไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก หรือเหมาะกับตัวเอง แต่ทุกครั้งที่มีการปรับแผนอะไรใหม่แบบครั้งใหญ่ ก็เห็นสมควรที่จะถอดความคิดและความรู้สึกของตัวเองออกมาเป็นตัวหนังสือ จะผิดจะถูกอย่างไร ก็ขอให้เป็นการเรียนรู้จักตัวตนของเราไปอีกทีละนิดทีละหน่อย